หน้าบ้านใครคิดว่าไม่สำคัญ แต่ในทางฮวงจุ้ยถือว่าเป็นสิ่งที่เราควรต้องดูแลเอาใจใส่กันเลยล่ะค่ะ เนื่องจากหากเปรียบในเชิงสัญลักษณณ์แล้วก็หมายถึง หน้าตาของคนเราที่มักจะมองเห็นก่อน
คำว่า หน้าบ้าน นั้นบางคนนึกถึงแต่ว่า หน้าบ้านเราเป็นสามแพร่ง เป็นถนน แต่จริงๆแล้ว ไม่เพียงแต่เท่านั้น หน้าบ้านยังประกอบไปด้วย รั้วหรือกำแพงบ้าน ประตูรั้ว แล้วยังหมายถึง พื้นที่ด้านหน้าก่อนจะถึงประตูบ้านอีกด้วย
กำแพงรั้ว ต้องคอยตรวจตราดูแลว่า มีทรุด แตก ร้าว สีกะเทาะหรือเปล่า
ประตูรั้ว ถ้าสีซีดเสียจนเดาสีเดิมไม่ออก มีรอยกะเทาะ สนิมจับ สิ่งเหล่านี้ก็ต้องแก้ไขซ่อมแซม
ลานด้านหน้าก่อนถึงประตูบ้าน หากมีพื้นทรุด กระเบื้องแตก ตะไคร่จับ ก็ต้องซ่อมอีกนั่นล่ะ และบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะทำหลังคาคลุมเป็นที่จอดรถ ก็ต้องคอยดูว่าทรุดโทรมหรือไม่
การที่คนเราจะก้าวออกจากประตูบ้านออกไปทำงาน สิ่งแรกที่เรามองออกไปเห็น จัดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะฮวงจุ้ยให้ความสำคัญกับสิ่งที่กระทบสายตา ซึ่งจะมีผลไปยังอารมณ์ ความรู้สึก ดังนั้น เมื่อเปิดประตูบ้านออกไปเห็นอะไร มีความรู้สึกอย่างไร สิ่งนั้นจะติดตัวเราออกไปข้างนอกเพราะเราเห็นและผ่านสิ่งเหล่านี้ทุกวัน เหมือนเราฉีดน้ำหอม กลิ่นนั้นก็จะติดตัวเราออกไปนั่นเอง
นอกจากสิ่งที่กล่าวมาแล้ว ยังมีเรื่องของการจัดตกแต่งสวนด้านหน้าด้วย มีโอกาสติดตามอาจารย์แอนไปยังบ้านหลังหนึ่ง เมื่อมองออกจากประตูบ้านไปเจอสวนที่ประดับด้วยก้อนหินขนาดใหญ่สะดุดตาเสียจนไม่เห็นอย่างอื่น ท่านเจ้าของบ้านเขียนอักษรมงคลไว้บนนั้น อาจารย์แอนบอกว่า แบบนี้จะมีความหมายว่า จะต้องเผชิญกับอุปสรรคเสียก่อนที่จะประสบกับสิ่งดีๆ วิธีแก้ก็ง่ายๆ ค่ะ อาจารย์แอนขอให้เพิ่มก้อนหินขนาดย่อม ๆ อีก 2 ก้อน จัดวางเรียงรายเป็นแนวหิน 3 ก้อน เสมือนกับเป็นเขาเกร็ดมังกร โชคดีที่พออาจารย์แอนพูด ท่านก็เข้าใจทันที เพราะ คำว่า เกร็ดมังกร นั้นมีความหมายที่ดี หมายถึง สติปัญญา ความเฉลียวฉลาด ความยิ่งใหญ่
นอกจากนั้นแล้ว อาจารย์แอนยังให้เขียนอักษรมงคลของจีนลงไปบนหินทั้ง 3 ก้อนนี้ด้วยค่ะ เท่านี้ก็เสมือนกับว่า เราออกจากบ้านด้วยมองเห็นและผ่านสิ่งที่เป็นมงคล นำบรรยากาศดี ๆติดตัวเราออกไป